เขาบอกว่า… หอนาฬิกาซัปโปโร (Sapporo Clock Tower) เป็นสัญลักษณ์ของเมืองซัปโปโรค่ะ และเป็นอีกหนึ่ง Landmark ที่ไม่ควรพลาด หากได้ไปเยือน ..เช่นนั้น… เราจะหรือจะพลาด คงต้องตามไปดูกันหน่อยละค่ะ…
วันนี้หิมะตกมากเหลือเกิน …ตกกระหน่ำจนแทบไม่ลืมหู ลืมตา มือชาไปหมดแล้วค่ะ
นี่ขนาดว่าเราไปช่างบ่ายแล้วนะคะ(บ่าย 2) หิมะยังไม่หยุดตกหรือเบาลงเลย(ตกหนักทั้งวัน) …ระยะทางจากสถานีซัปโปโร ไม่ได้ไกลเลย แต่ดูเหมือนว่าเราจะเดินนานมาก(ไกลกว่าที่คิด) …แต่ไม่เป็นไรค่ะ ตั้งใจแล้ว เดินหน้าต่อไป
ใกล้แล้วค่ะ… เห็นหอนาฬิกาอยู่ตรงหน้า …อยากจะเดินรอบๆ ถ่ายรูปสวยๆ สักหน่อย แต่ความหนาวไม่ปราณีเอาซะเลย
เข้าไปข้างในกันดีกว่า… ต้องซื้อตั๋ว (คนละ 200 เยน) ก่อนค่ะ จึงจะเข้าไปชมภายในพิพิธภัณฑ์ได้ …เคาน์เตอร์ขายตั๋วอยู่ด้านขวา … เราซื้อตั๋ว 5 ใบ(5 คน) เข้าไปข้างในกันค่ะ
หอนาฬิกาเก่าประจำเมืองแห่งนี้มีอะไรบ้างนะ ?
ชั้น 1 …ส่วนนิทรรศการบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของหอนาฬิกาและชิ้นส่วนต่างๆ ทั้งภาพเหตุการณ์ต่างๆ และแบบจำลอง(โมเดล)หอนาฬิกา ไม้และวัสดุที่นำมาใช้สร้างหอนาฬิกา ฯลฯ
ชั้น 2 …เป็นห้องโถงกว้าง(มีเก้าอี้)สำหรับทำพิธีสำคัญและกิจกรรมต่างๆ …ส่วนบริเวณรอบๆ บอกเล่าเรื่องราว(ประวัติ)ของนาฬิกา และกลไกต่างๆ
…แต่ที่สะดุดตาของเรา เห็นทีจะเป็นนาฬิกาเรือนใหญ(ยักษ์) โปรงใสเห็นถึงกลไกที่ขับเคลื่อนอยู่ด้านหลัง … สวยจังเลยค่ะ
สารภาพเลยว่า… เราดูไม่ครบหรอกค่ะ เพราะหนาวจนไม่อยากเดินหรือทำอะไรแล้ว ขอนั่งพักอีกนิด ก่อนที่จะเดินทางไปที่อื่นกันต่อ …
หากมีโอกาสได้ไปอีกครั้ง จะขอเข้าไปทำความรู้จักให้มากกว่านี้ …
————————————-
**เราลงรถไฟใต้ดินที่สถานีซัปโปโร เดินอีกประมาณ 800 เมตร (10 นาที) ตามกูเกิลแมพไปค่ะ ไปไม่ยาก (เพียงรู้ว่าเราอยู่ไหน ไปที่ใด) …วิธีการเดินทางไปเที่ยวแต่ละแห่ง เราจะใช้กูเกิลแมพค้นหา(ปักหมุด)สถานที่ปลายทางไว้ก่อน … ส่วนว่าจะไปวันไหน เวลาใด เราก็มาดูอีกครั้งว่าแต่ละแห่งที่เราเลือกไว้นั้น ไปทางเดียวกันไหม(วนวงกลม) และเปิดทำการเวลาใด หยุดวันไหน? … จากนั้นก็จับมาวางไว้ในแผนแต่ละวันๆ (วางแผนวันละ 2-3 แห่ง)**