เขาบอกว่า… ทัศนียภาพยามค่ำคืนจากภูเขาฮาโกดาเตะ (Mount Hakodate) ได้รับคะแนนสูงสุดระดับสามดาวจากคู่มือนำเที่ยว “มิชลิน กรีน ไกด์ เจแปน” เชียวนะคะ …นั่นหมายความว่า ยอดเยี่ยม ควรค่าแก่การเดินทางไปเยือน …

มีอะไรอยู่ที่ภูเขาแห่งบ้างล่ะ ? 

* มีรถกระเช้าขนาดใหญ่ สามารถจุคนได้มากถึง 125 คน …โดยเชื่อมจากซังโรคุ (ฐานภูเขา) ไปยังซังโจเทนโบได (จุดชมวิวบนยอดเขา) ใช้เวลา 3 นาที (ออกทุกๆ 5-10 นาที)

* มีภัตตาคารและฮอลล์กิจกรรม …บนจุดชมวิวยอดเขาที่ชั้น 2 มีภัตตาคารเจนัว มีฮอลล์กิจกรรมฉายภาพยนตร์แนะนำทัศนียภาพยามค่ำคืนในแต่ละฤดู และเป็นสถานที่สำหรับจัดงานเลี้ยงต่างๆ ส่วนชั้น 3 มีร้านกาแฟเลกาโตที่สามารถจัดงานปาร์ตี้ต่างๆ ได้

* มีร้านขายของฝากของที่ระลึก เครื่องดื่ม และของว่าง … ร้านค้าที่ชั้นล่าง (ฐานภูเขา) ขายขนมปัง ไอศกรีม ขนมต่างๆ และชั้น 2 บนยอดเขา(จุดชมวิว) มีร้านขายของหลากหลายชนิด เช่น ของที่ระลึกต่างๆ เสื้อยืด สมุด ปากกา ชา กาแฟ น้ำดื่ม น้ำอัดลม เบียร์ ไอศกรีม ขนมและของว่าง ฯลฯ

เราคือหนึ่งนักท่องเที่ยวที่มีโอกาสไปเยือนยอดเขาแห่งนี้เช่นกัน … ขอเล่าเรื่องราวและนำภาพสวยๆ ให้เห็นทัศนียภาพต่างๆ ไปพร้อมกับเรา …ตามมาค่ะ

ขอเกริ่นนิดนึงว่า… เราเดินทางถึงฮาโกดาเตะวันแรกก็บ่ายแล้วค่ะ (เวลาประมาณ 15.00 น.)  เก็บกระเป๋า พักหายเหนื่อย …หมุดแรกสำหรับการเที่ยวฮาโกดาเตะก็คือ ชมวิวยามค่ำบนยอดเขา

เริ่มเดินทางกันเลยค่ะ … เดินจากโรงแรมไปขึ้นรถรางที่สถานี Hakodate-Ekimae ไปลงสถานี Jujigai (3 ป้าย) และเดินต่อไปอีกประมาณ 600 เมตร (10 นาที) ก็ถึงสถานีรถกระเช้าแล้วค่ะ …เห็นสถานีอยู่ขวามือแล้วค่ะ ใกล้ล่ะ

 

เดินเข้าไปภายในสถานีกันเลย …ซื้อตั๋วโดยสารรถกระเช้าก่อนนะ (ไป-กลับ คนละ 1,280 เยน) … จากนั้นก็ไปต่อคิวอยู่แปปนึง ก็มีเจ้าหน้าที่มาบอกให้ขึ้นไปต่อที่ชั้น 2 (เข้าใจว่าที่เราต่ออยู่นั้นน่าจะเป็นกรุ๊ปทัวร์ค่ะ …ต่อผิดแถว)

 

 

 

ถึงคิวขึ้นกระเช้ากันแล้ว … คนเยอะมาก(แน่น)ค่ะ (เบียดเหมือนปลากระป๋อง) อาจเป็นช่วงเทศกาลละมั๊ง(ปีใหม่)

 

ถึงแล้วค่ะ… เดินขึ้นไปชมวิวที่ชั้น 3 กันดีกว่า (ลิฟท์จอดบริเวณชั้น 2)  วิวสวยมากๆ เลยค่ะ … แต่กว่าจะเบียดไปหามุมโปรด เพื่อชมและถ่ายภาพวิวสวยๆ ก็ต้องรอให้คนข้างหน้าออกมาก่อน …

ภาพที่อยู่เบื้องล่าง ตึกน้อยใหญ่ บ้านเรือน ถนนหนทาง (ระยะไกล) เหมือนถูกประดับด้วยหลอดไฟ(ล้านดวง?) ส่องแสงระยิบระยับ(เหมือนดาวบนท้องฟ้า) ถูกขนาบด้วยทะเลทั้งสองด้าน มองดูคล้ายนาฬิกาทรายก็ว่าได้ (จินตนาการ?) …ช่างสวยงามและควรค่าแก่การมาเยือนจริงๆ (ไม่เสียแรงที่มา)

 

 

ได้เวลากลับกันแล้วล่ะ ลงไปชั้น 2 กันเถอะ … เอ๊ะ มีลิฟท์ด้วยค่ะ ลงลิฟท์ดีกว่า …ที่ชั้น 2 มีร้านขายของฝาก ของที่ระลึกด้วย เข้าไปหาไออุ่นภายในร้าน และเดินดูของที่ระลึก ซื้อขนม น้ำ สักหน่อยนะ … ได้ขนม YURAKUSEIKA White Black Thunder Chocolate ขนาด 600g (ถุงใหญ่) มาหนึ่งถุง (ตั้งใจว่าไว้ไปหาซื้อเพิ่มในตัวเมืองฮาโกดาเตะ หรือซัปโปโร …แต่หาไม่ได้ หรืออาจจะหาไม่เจอ ก็ไม่รู้…ซื้อถุงเล็กเพิ่มก็ได้) ได้ขนมที่ระลึกอื่นๆ ด้วยค่ะ อุตส่าห์ไปรอต่อจ่ายเงินช่อง Tax Free แต่ว่ายอดเงินไม่ถึงจำนวนที่เขาระบุ ก็เลยไม่ใช้บริการ (ไม่ได้ถ่ายภาพบรรยากาศร้านมาฝากค่ะ เลยเอาภาพขนมและของน้ำที่เหลือมาลงประกอบ)

 

สมควรแก่เวลาที่จะกลับกันแล้วนะ ไปขึ้นรถกระเช้าลงไปชั้นล่างกันเถอะ …รอต่อแถวยาวมากๆ วนกันออกนอกอาคารเลยทีเดียว(ลมหนาวปะทะอย่างแรง หนาวจับใจ กว่าจะหลุดเข้าไปอยู่ในอาคารได้ ปากสั่นกันเลยทีเดียว) ในระหว่างรอไปขึ้นกระเช้า ยังมีนักท่องเที่ยวขึ้นมาชมวิวอย่างต่อเนื่อง (เยอะจริงๆ)

 

 

 

ถึงชั้นล่างแล้วค่ะ… ตั๋วโดยสารห้ามทิ้งนะคะ เตรียมกันไว้เลย ตอนออกจากสถานี ต้องแตะออกด้วยนะคะ  …

 

จบทริปชมวิวแล้วค่ะ… บอกได้เลยว่า ทัศนียภาพจากภูเขาฮาโกดาเตะไม่ทำให้ผิดหวังเลยจริงๆ 

———————————-

ขยายความนิดนึงเพื่อเป็นข้อมูลค่ะ

* มิชลิน กรีน ไกด์ แจแปน คือ คู่มือนำเที่ยวที่เสนอความน่าสนใจของสถานที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศญี่ปุ่นที่ประเมินโดยมิชลิน

* ฤดูใบไม้ร่วงกระเช้าจะหยุดให้บริการ 10 วันเนื่องจากทำการตรวจสอบสภาพอายุการใช้งาน (หากใครจะไปเยี่ยมเยือนคงต้องเช็คข้อมูลก่อนนะคะ)

* วิธีการเดินทางของเราแต่ละสถานที่ เราจะใส่จุดเริ่มต้น(โรงแรม) และจุดที่จะไปถึง(ชื่อสถานที่ท่องเที่ยว) แล้วค้นหาในกูเกิล(แผนที่) ว่าต้องไปอย่างไร ลงที่ไหน กี่สถานี ใช้เวลาเท่าไร จากนั้นก็ให้กูเกิลแมพนำทางไปค่ะ (บางทีก็อ้อมค่ะ งงๆ ก็มี แต่ก็ใช้อีกวิธีร่วมด้วย คือ ถามใครสักคนที่น่าจะเป็นคนท้องถิ่นและเข้าใจภาษาอังกฤษ)

* นอกจากรถราง(ที่ต้องเดินไกลนิดนึง) ยังมีรถบัสที่จอดรับ-ส่งหน้าสถานีถึงหน้าสถานีเลยค่ะ