คิดจะพัก-หนังภาคต่อ ส่วนมากจะมีส่วนใหญ่บอกว่า สู้ภาคแรกๆไม่ได้แต่ ประโยคนี้นำมาใช้กับ ขุนพันธ์3 ไม่ได้ นับเป็นหนังภาคต่อที่สนุกขึ้นมาเรื่อยๆจนอยากให้มีภาคต่อไปอีกว่าจะสนุกขนาดไหน ถึงแม้ว่าผู้กำกับบอกว่า อาจไม่มี ขุนพันธ์4 แล้วก็ตาม
เรื่องย่อแต่ไม่สปอย
ในปีพ.ศ.2493 บ้านเมืองได้รับผลกระทบจากสงคราม ชุมโจรเสือร้ายยังคงชุกชุมไปทั่วทุกหนแห่ง ขุนพันธ์ นายตำรวจมือปราบผู้ยึดมั่นในความถูกต้องจึงถูกเรียกกลับมาปฏิบัติภารกิจล่าตัว 2 เสือร้ายอาคมกล้าที่กำลังฮึกเหิมและท้าทายอำนาจรัฐ โดยที่ไม่เคยมีใครเข้าถึงตัวได้ นำไปสู่การหวนเหยียบถิ่นเสืออีกครั้งของขุนพันธ์ ท่ามกลางเหล่าเสือร้ายที่หมายเอาชีวิต และพร้อมพิพากษามือปราบคงกระพันด้วยความตาย
.
การจับตาย 2 เสือชื่อดังอย่าง เสือมเหศวรและเสือดำ ครั้งนี้อาจไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ขุนพันธ์จะสามารถบรรลุภารกิจท้าทายศรัทธา และเผชิญหน้าเหล่าเสือร้ายที่มีทั้งอาคมและ ความคงกระพันได้หรือไม่….หรือถึงเวลาแล้วที่ครั้งนี้ มือปราบหนังเหนียวอย่างขุนพันธ์จะกลายเป็น “ผู้ถูกล่า” เสียเอง

อนันดา เอเวอริงแฮม กลับมาพร้อมกับภารกิจครั้งใหม่ที่นอกจากต้องต่อกรกับเหล่าเสือร้ายชื่อดัง แห่งภาคกลาง เรายังจะได้เห็นการพัฒนาของตัวละครนี้ในอีกมิติหนึ่งที่จะทำให้ผู้ชมได้เข้าถึงอีกด้านของตัวละครขุนพันธ์
“10 ปี ของชีวิตผม คือตัวละครขุนพันธ์ 1 ใน 4 ของชีวิตผมที่อยู่กับตัวละครตัวนี้ จนกลายเป็นส่วนหนึ่ง ของผมไปแล้ว ขุนพันธ์ยังเต็มไปด้วยความดุดัน เราจะได้เห็นแง่มุมในหลากหลายมิติของตัวละคร ในแง่ความ เป็นมนุษย์คนหนึ่ง มีเลือดเนื้อ เป็นภาคที่เราจะได้เห็นด้านมนุษย์ที่สุดของท่านขุน แน่นอนว่าในความเป็น
หนังขุนพันธ์ ความเดือด แอ็กชัน จัดเต็มในงานสร้างโปรดักชันไม่ขาดหาย แต่พอตัวเรื่องดำเนินมาถึงภาค 3 ทำให้โลกและจักรวาลของขุนพันธ์สามารถขยายขอบเขตและสร้างความซับซ้อนและล้ำลึกขึ้นไปได้อีก”

โดยในภารกิจจับตายเสือ 2 คนสุดท้าย คู่ต่อกรคนสำคัญที่ขุนพันธ์จะต้องปะทะความเดือดในครั้งนี้ ได้ 2 นักแสดงหนุ่ม มาริโอ้ เมาเร่อ พลิกบทบาท มาสวมชีวิตเป็น เสือมเหศวร และ โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ สวมจิตวิญ ญาณเป็น เสือดำ ออกมาชนิดที่ว่าตรงตามจินตนาการ และการตีความของผู้กำกับ โขม ได้ทุกอณูสมความตั้งใจ
“เสือดำตัวละครที่มีความบิดเบี้ยวในจิตค่อนข้างเยอะคลับคล้ายคลับคลาเหมือนเป็นอีกด้านหนึ่งของ อัลฮาวียะลู ผู้ตกอยู่ในหลุมที่ไม่มีก้นบ่อแล้วมันขึ้นมาไม่ได้ สิ่งหนึ่งที่เขายึดถือมาตลอดคือสัจจะในหมู่โจร ซึ่งเสือดำก็คือดิน เขียนอักขระลงบนดิน แล้วใช้ดินซัดสาดกระสุนไป จึงเป็นความหนักความแน่น ถ้ามเหศวรเป็นลม เสือดำก็คือดิน สภาพโตโน่มันก็คือดิน คือยับเยิน ดุเดือด มันอำมหิต มึงฆ่ากูหนึ่งคน กูจะฆ่ามึงคืน 10 คน และจะค่อยๆฆ่ามึงด้วย ในขณะที่เสือมเหศวรของมาริโอ้คือจารชน 2 หน้า มี 2 บุคลิก พลิ้วไหว เป็นนักปล้นที่เก่งมาก ฉลาดมาก ซึ่งมาริโอ้มีเคมีเหล่านี้อยู่”

เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนหนุ่มมาริโอ้ได้ขยายให้เห็นถึงแง่มุมของคาแรกเตอร์ เสือมเหศวร ที่ได้รับและตั้งใจ ถ่ายทอดออกมาในตัวเสือเจ้าเสน่ห์ตัวนี้ได้อย่างน่าสนใจ
“มเหศวรคือ เสือหนุ่มหัวหน้ากลุ่มเชิ้ตขาว คือคู่ปรับคนสำคัญของ ขุนพันธ์ ที่เข้ารวมกับกลุ่ม 4 เสือภาคกลาง คือคนรุ่นใหม่ที่ไม่ชอบความเหลื่อมล้ำ เป็นเสือที่ฉลาดและเต็มไปด้วยไหวพริบ ว่องไว เหมือนลิงลม พกพระมเหศวรไว้ตลอด มีคาถาเบี่ยงกระสุนได้ บทนี้จะต้องปลอมตัวเปลี่ยนชุดตลอดเวลา เป็นคาแรกเตอร์ที่มีความหลากหลาย และท้าทายตัวผมเองมากๆ”
ในขณะเดียวกันเราจะได้เห็นการปรับเปลี่ยนตัวเอง และดำดิ่งเข้าสู่ด้านมืดอย่างเต็มรูปแบบของโตโน่ ในบทเสือ ดำที่เชื่อว่าทุกคนจะคาดไม่ถึง
“เสือดำคือเสือตัวสุดท้าย ที่มีความชัดเจน ตรงไปตรงมา มีศักดิ์ศรี รักพวกพ้อง สักหนุมานที่หน้าอก แขนข้างซ้ายเป็นเสือ มีอาวุธคู่ใจคือ ลูกซองสั้น มีปืนคู่ ฟันก็จะดำเพราะดูดฝิ่นเยอะ แต่จุดเด่นจะมีฟันทอง 2 ซี่ การทำงานครั้งนี้มันทำให้ผมรู้เลยว่านี่คืองานที่ผมพร้อมจะแลกทุกอย่าง เหงื่อที่ผมมี เลือดที่ผมมี งานแบบนี้ แหละที่เราพร้อมจะไปสู้กับทั่วโลกเขา”
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีอีก 2 นักแสดงรุ่นใหม่ไฟแรงที่เข้ามาร่วมสร้างความสมบูรณ์แบบเพื่อปิดไตรภาคในครั้งนี้ นั่นคือ ฟ้า ษริกา สารทศิลป์ศุภา นักแสดง, ยูทูปเบอร์สุดฮอต และ สาวอินดี้จาก “ฮาวทูทิ้ง…ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ” พลิกบทบาทมาถือปืนและเข็มฉีดยาในบท “สาวิตรี” หมอสาวผู้เป็นดั่งดอกฟ้าในชุมเสือ อ่อนโยน และแข็งแกร่ง ไม่แพ้เหล่าบรรดาเสือร้าย
“สาวิตรีเป็นหมอที่รักจรรยาบรรรณในการเป็นหมอ มีความเมตตาสูง เขารักษาทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนดี คนจน คนเลว คนชั่วก็รักษา ถูกกองโจรลักพาตัว จับพลัดจับผลูที่ต้องอยู่รวมกับเหล่าชุมโจร เป็นบทที่เรียก ได้ว่าสาหัสสากรรจ์ เกิดมาหนูก็ยังไม่เคยเล่นอะไรที่มันโหดร้ายแบบนี้ ล้มลุกคลุกคลาน ลุยกันเต็มที่”
และอีกหนึ่งตัวละครสำคัญ นั่นคือ ร.อ.ทัตเทพ นายทหารหนุ่มอนาคตไกล เลือดใหม่ของกองทัพที่เปรียบ ดั่งมือขวาของขุนพันธ์ที่ถูกส่งให้มาร่วมในภารกิจจับตาย 2 เสือในครั้งนี้ ที่ได้ เอม ภูมิภัทร ถาวรศิริ (ONE FOR THE ROAD, นคร-สวรรค์ , อาชญาเกม) นักแสดงหนุ่มรุ่นใหม่ที่น่าจับตามองมากที่สุด ที่ผกก.โขมถึงกับการันตีว่า คือนัก แสดงรุ่นใหม่มากฝีมือที่ดีทั้งดราม่า และแอ็กชัน แสดงได้อย่างเหนือความคาดหมาย
“ทัตเทพ เป็นนายทหารหนุ่มรุ่นใหม่อนาคตไกล เขาเติบโตมากับวีรกรรมของขุนพันธ์ตั้งแต่เด็ก แต่เขาจะไม่เชื่อเรื่อง วิญญาณ เวทมนตร์คาถา เขาเชื่อในเรื่องยุทธวิธีการสงครามมากกว่า สิ่งที่เขาเชื่อมั่น ในการทำภารกิจคือ ไม่เลือกวิธีการ ที่จะทำให้งานสำเร็จ สามารถใช้อาวุธได้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นปืน สั้นปืนยาว อาวุธหนัก อาวุธเบา สามารถใช้ได้หมด”
เตรียมพบกับบทบาทครั้งสำคัญของนักแสดงทั้ง 5 ที่จะมาร่วมสร้างปรากฏการณ์ความยิ่งใหญ่บนแผ่นฟิล์ม พร้อมทีมงานและนักแสดงกว่า 300 ชีวิต ในภารกิจพิพากษาทุกอาคม ถล่มทุกความคงกระพัน ใน ขุนพันธ์ 3 สู่วันพิพากษา 1 มีนาคม ในโรงภาพยนตร์ไม่ดูไม่ได้แล้ว