คิดจะพัก-ภาพยนตร์เรื่อง “สมมติ” (Suppose) กำกับโดย ธนกร พงษ์สุวรรณ เป็นภาพยนตร์โรแมนติกดราม่า เล่าเรื่องราวของ นน (อนันดา เอเวอริงแฮม) ชายหนุ่มวัยกลางคนที่เพิ่งเลิกรากับแฟนเก่า เขาจึงเริ่มออกตามหาความรักครั้งใหม่ จนได้มาพบกับ เดียร์ (ชญานิษฐ์ ชาญสง่าเวช) หญิงสาวลึกลับที่ดูเหมือนจะรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเขา
นนและเดียร์สานสัมพันธ์กันอย่างรวดเร็ว พวกเขาใช้เวลาร่วมกันอย่างมีความสุข แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขากลับต้องอยู่บนพื้นฐานของการโกหก เพราะทั้ง 2 คนต่างก็ปิดบังตัวตนที่แท้จริงของตัวเองเอาไว้
นนโกหกเดียร์ว่าตัวเองเป็นสถาปนิกที่ประสบความสำเร็จ ในขณะที่เดียร์โกหกนนว่าตัวเองเป็นครูสอนศิลปะ ทั้งคู่ต่างก็กลัวที่จะเปิดเผยความจริง เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะทิ้งไป
ความลับของทั้งคู่ค่อยๆ เปิดเผยออกมาทีละน้อย จนกระทั่งถึงจุดแตกหัก นนและเดียร์ต้องตัดสินใจว่าจะเลือกที่จะเดินหน้าต่อไป หรือจะยอมหยุดความสัมพันธ์
“สมมติ” เป็นภาพยนตร์ที่นำเสนอประเด็นความสัมพันธ์ของคนยุคใหม่ ที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนและความไม่แน่นอน ความรักของนนและเดียร์เปรียบเสมือนความสัมพันธ์สมมติที่สร้างขึ้นจากความปรารถนาและความกลัว ทั้งคู่ต่างก็กลัวที่จะเผชิญหน้ากับความจริง และยอมที่จะอยู่ร่วมกันบนพื้นฐานของการโกหก
ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวกจากนักวิจารณ์ โดยหลายคนชื่นชมการแสดงของอนันดาและชญานิษฐ์ รวมถึงการกำกับของธนกร พงษ์สุวรรณ ที่ถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้อย่างมีเสน่ห์และน่าติดตาม
สำหรับใครที่ชื่นชอบภาพยนตร์โรแมนติกดราม่าที่นำเสนอประเด็นความสัมพันธ์ของคนยุคใหม่ “สมมติ” เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่ไม่ควรพลาด
“อนันดา เอเวอริงแฮม” เผยถึงเบื้องหลังภาพยนตร์เรื่องใหม่นี้ว่า
“ก่อนหน้าเรื่อง ‘สมมติ’ ผมไม่ได้เล่นอะไรเลยมาพักใหญ่
เหมือนแพสชันมันหายไปหน่อย แล้ววันหนึ่งก็ได้มาคุยกับ ‘พี่อั๋น’ (ผู้กำกับ)
ก็ลองเอาบทมาอ่านก็รู้สึกว่ามันแปลกดี ผมว่าพี่อั๋นแกเป็นคนที่ค่อนข้างเปิดกว้าง
คือเค้ามีพื้นที่ให้กับผม ให้กับตัวละครค่อนข้างเยอะ ให้ทำอะไรก็ได้
ขอให้เป็นตัวละครแค่นั้นพอ
มันเป็นหนังที่ไม่จำเป็นจะต้องคิดเยอะเกินไป
มันเป็นโมเมนต์ของคนสองคนที่อยู่ด้วยกัน ตอนที่เข้าฉากกับ ‘แพต’
เราก็ไม่ได้ไปตีความมากมาย แล้วจริงๆ ตัวละคร ‘นน’ ก็เป็นตัวละครที่ต้องตาม
‘เดียร์’ อยู่แล้ว ตอนเข้าฉากผมก็ให้แพตนำเลย อยากทำอะไรผมก็จะทำตาม
ส่วนมากเรารีแอ็กต่อตัวละครของแพต ร่วมงานกับแพตก็ไม่มีปัญหาอะไร
เค้าก็ตลกดี เป็นคนยูนีค มีคาแร็กเตอร์ของเค้าเองชัดเจน”
ด้าน “แพต ชญานิษฐ์” ได้พูดถึงการทำงานในเรื่องนี้ว่า
“ตอนแรกที่ผู้กำกับบอกให้ตีความคาแร็กเตอร์เองเลย
อ่านแล้วรู้สึกยังไงให้ดีไซน์ขึ้นมาเลย เรารู้สึกว่าอยากให้เป็นแบบนี้ พูดแบบนี้
มีรีแอ็กชันแบบนี้ แล้วก็บอกเหตุผล ผู้กำกับเห็นด้วย แล้วลองทำดู มันก็สนุกดี
เหมือนเปิดโอกาสให้นักแสดงที่ลงไปเล่นแล้วได้ออกความคิดเห็นด้วย ‘พี่อั๋น’
มักจะบอกว่ากระโจนเลย เชื่อแล้วก็ทำเลย อยากทำอะไรก็ทำ
อย่าให้หลุดเส้นเรื่องก็พอ เราก็สนุกสิ ไม่เครียด ก็ลุยเลย
เรื่องนี้มันมีอิมโพรไวส์เยอะแทบทุกซีนเลย มันเกิดขึ้นตลอดเวลา
การอิมโพรไวส์นี่มันทำให้โมเมนต์ที่เกิดขึ้นเป็นธรรมชาติที่สุด
เรื่องนี้มันเป็นหนังแบบโมเมนต์ คือโมเมนต์ต้องเกิดขึ้นจริง แล้ว ‘พี่จ่อย’ (อนันดา)
เค้าก็ช่วยเยอะมาก เป็นคนตลกมาก เป็นพี่ที่ดีคนหนึ่งเลย
ช่วยการแสดงของเราเยอะมากเลยค่ะ”
- การแสดงของอนันดาและชญานิษฐ์ ชาญสง่าเวช เข้ากันได้ดี ถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครได้อย่างสมจริง
- การกำกับของธนกร พงษ์สุวรรณ ถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้อย่างมีเสน่ห์และน่าติดตาม
- ประเด็นความสัมพันธ์ของคนยุคใหม่ นำเสนอออกมาได้อย่างน่าสนใจ
- การดำเนินเรื่องในช่วงแรกอาจดูเนือยไปบ้าง
- บทสรุปของเรื่องอาจดูง่ายไปหน่อย
โดยรวมแล้ว “สมมติ” เป็นภาพยนตร์ที่นำเสนอประเด็นความสัมพันธ์ของคนยุคใหม่ได้อย่างน่าสนใจ นักแสดงและกำกับดี แต่การดำเนินเรื่องในช่วงแรกอาจดูเนือยไปบ้าง และบทสรุปของเรื่องอาจดูง่ายไปหน่อย