ติดพายุหิมะฮอกไกโด ไม่โรแมนติคเหมือนหนังแฟนเดย์

 

หนังเรื่องแฟนเดย์ พระเอกนางเอกติดพายุหิมะที่สถานีรถไฟ Ranshima ส่วนเราติดพายุหิมะอยู่ที่สถานี Yakumo ค่ะ สถานการณ์คล้ายๆ กันเลย (มั๊ง) แต่ความโรแมนติคต่างกันราวฟ้ากับดิน …ประเทศญี่ปุ่น

จุดหมายของเขา… ไปดูสโนว์เฟสติวัลวันสุดท้าย  ส่วนของเรา ไปดูงานแสดงแสง สี วันคริสต์มาส(25 ธ.ค.)วันสุดท้าย …เขาหลบหนาวรอรถไฟในมินิมาร์ทที่มีของกินมากมาย ได้สารภาพรัก(โรแมนติค?) … ส่วนเราหลบหนาวอยู่แต่ในรถ และภายในสถานีรถไฟ ก็ไม่มีมินิมาร์ท มีแต่ร้านเล็กๆ ก็ไม่เหลืออะไรให้ซื้อกินแล้ว … สุดท้ายรถไฟของเขาวิ่งต่อไปได้ ส่วนเราต้องนั่งรถบัสไปต่อ …

เราเคยได้ยินแต่คนอื่นพูดว่า “ติดพายุหิมะ ออกไปเที่ยวไหนไม่ได้เลย อยู่แต่ในโรงแรม” “ติดพายุที่สนามบิน กลับยังไม่ได้” ฯลฯ (ปลายเดือนธันวาคมปีก่อนๆ) …เราก็ภาวนาว่า ขออย่าให้ไปเจอพายุหิมะเหมือนเขาเลย ไม่เช่นนั้นจะเที่ยวไม่ครบตามแผน …แต่! อะไรก็ช่วยไม่ได้ เราติดพายุหิมะด้วยค่ะ !!! (ไม่ได้อยากติดเลยสักนิดเดียว) … เก็บมาเล่าถึงความทุลักทุเลตลอด 14 ชั่วโมงที่ติดพายุหิมะอยู่ที่เมืองยาคุโมะ (Yakumo : เมืองนี้น่าสนใจมากเลยค่ะ ตอนท้ายเรื่องเล่ามีข้อมูลสั้นๆ)

เช้านี้(25 ธ.ค. 2560) เราออกเดินทางจากฮาโกดาเตะ เพื่อไปซัปโปโร ตั้งใจว่าจะไปฉลองวันคริสต์มาส ดูงานแสดง แสง สี ที่สวนโอโดริ (เขาจัดเป็นวันสุดท้ายด้วยสิ)  …ตามมาเลยค่ะ

10.05 น. รถไฟ Express Sapporo ออกจากฮาโกดาเตะ (ตรงเวลา) วิ่งมาได้ประมาณ 1 ชั่วโมงเห็นจะได้ ก็หยุดอยู่ที่ สถานี Yakumo …จอดอยู่อย่างนั้น…

เวลาก็ผ่านไปจนกระทั่ง 12.00 น. (โดยประมาณ) ท้องเริ่มหิว(ร้องหาอาหาร) … มีอะไรในกระเป๋าเอาออกมา (เจอข้าวปั้นที่ซื้อจากเซเว่นตรงข้ามโรงแรม) …พนักงาน(รถไฟ)เข็นรถขายของผ่านมาพอดี แต่ก็ไม่ค่อยมีอะไรเหลือให้เลือกแล้วค่ะ (ขายดี) … ซื้อกาแฟแล้วกัน …ส่วนอันนี้อะไรนะ ? น่าลอง…”แซลมอน”(อบแห้งมั๊ง) รสชาติไม่ถูกปากเอาซะเลย …ฝืนๆ กินไป ดีกว่าไม่มีให้กิน !

 

13.00 น. รถก็ยังจอดอยู่อย่างนั้น หิมะเพิ่มปริมาณ(ตก)มากขึ้น จากฟุตบาทที่เห็นเป็นสีดำ(เมื่อเริ่มจอด) กลายเป็นสีขาวขึ้นเรื่อยๆ … หลายคน(คนท้องถิ่น) ไม่รอ ลุกออกไปหาต่อรถกันเอง คนแล้ว คนเล่า (ที่นั่งเริ่มว่าง)

เราเริ่มเห็นเจ้าหน้าที่แบกกล่องน้ำ กล่องขนม เดินมา และขึ้นมาแจกทุกคนในรถไฟ …เอ๊ะ เกิดอะไรขึ้นนะ ?

 

 

 

 

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่บนรถไฟ ทราบว่า …หิมะตกหนัก ทำให้รถไฟไม่สามารถวิ่งต่อไปได้ ต้องรอดูสถานการณ์ ความคืบหน้าอย่างไรจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง … รอกันต่อไปค่ะ (จะทำอย่างไรได้)

เจ้าหน้าที่แจกน้ำดื่มคนละขวด ขนม(ยังชีพ)คนละ 1 กล่อง ให้กินประทัง(ชีวิต)ความหิวไปก่อน …กล่องขนมเล็กกระทัดรัดดีนะ ส่วนขนมข้างในคล้ายคุ๊กกี้(ธัญพืช)ช็อกโกแเลต รสชาติแปลกดี ไม่หวานไม่เค็ม แต่ก็โอเคค่ะ (อร่อยนิดนึง)

หลายคนทยอยลงไปเดินเล่น สูบบุหรี่ ข้ามสะพานลอยไปในสถานียาคุโมะ ที่อยู่อีกฝั่งหนึ่ง(หาซื้อของกิน) ส่วนพวกเราสนุกกับหิมะที่ขาวโพน ข้างๆ รถไฟนั่นแหละค่ะ ถ่ายรูป สัมผัสหิมะที่โปรยปรายลงมา …

 

 

 

 

เริ่มหนาวกันแล้วนะ กลับขึ้นไปนั่งบนรถไฟดีกว่า … แต่เวลาก็ยังเดินต่อไป ความหิวก็มากลับเยือนอีกครั้ง 

16.00 น. ไปหาซื้ออะไรมากินลองท้องกันก่อนไหม ? … แต่ ! อาหารและขนม หรือของกินเล่นอื่นๆ ภายในสถานีรถไฟยาคุโมะ ที่หลายคนลงไปหาซื้อขึ้นมากินกัน (คนแล้ว คนเล่า) …หมดแล้วค่ะ จะทำอย่างไรกันดีละเนี่ย ? ไม่มีวี่แววว่ารถจะวิ่งต่อไปได้เลย แต่ทุกคนก็รอความหวังว่ารถไฟจะวิ่งต่อไปได้ หรือจะรอรถบัสมารับ(เจ้าหน้าแจ้งไว้อีกหนึ่งทางเลือกว่า JR จะจัดรถบัสมารับช่วงเวลาประมาณ 17.00 น.)

สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย ภายในสถานีรถไฟก็ไม่มีอาหารให้ซื้อแล้ว คงต้องออกไปเดินหาซื้อนอกสถานีกันแล้วละมัง …ผู้ชายไปเดินหาซื้อมาเลย พวกเราผู้หญิง ก็รออยู่ในรถไฟนี่แหละ …รอแล้ว รอเล่า ทำไมนานจัง …ฟังเล่าแล้วขำไม่ออกค่ะ

มาฟังกันค่ะ … “ออกจากสถานีเราก็เดินไปทางซ้ายเห็นร้านค้าเปิดไฟสว่างอยู่ไม่ไกลมาก…หิมะยังตกหนา แต่ด้วยความหิวไม่ได้ดูว่าเป็นร้านขายอะไร นึกว่าขายของกิน เลยเดินเข้าไปในร้าน พนักงานโค้งแล้วกล่าวคำต้อนรับ เราเดินจนทั่วร้านแต่ไม่เจออาหารสักอย่าง เจอแต่อุปกรณ์ประดับยนต์ อ้อ ร้านขายเครื่องประดับยนต์นี่เอง…อายพนักงานนิดหน่อย เลยรีบเดินออกมา ตัดสินใจเปิดกูเกิลแมพหา 7-11 ปรากฎว่ามีนะ แต่ต้องเดินย้อนกลับไปอีกทาง” 

 

 

 

 

 

 

 

 

กว่าจะได้ข้าวกล่องจากเซเว่นมากินรองท้อง เพื่อรอรถบัสมารับ เล่นเอาเหนื่อยกันเลยทีเดียว …ขอกินข้าวก่อนนะคะ จะได้มีแรงเดินทางต่อไป …เตรียมาตัวลงไปรอในสถานีกันดีกว่า เพราะพวกเรากระเป๋าคนละใบ ดูเป็นภาระ เกะกะ หากรอลงพร้อมคนอื่นคงทุลักทุเล(ไม่)น่าดู ต้องยกกระเป๋าขึ้นสะพาน และลงสะพาน เข้าไปในสถานีอีก(ลิฟท์ก็ไม่มี) … อย่ากระนั้นเลย ลงไปก่อนเถอะ

แต่ก่อนหน้านี้ ก็มีคนทยอยลงไปบ้างแล้วค่ะ (กระเป๋าเยอะเหมือนเรา มากันเป็นครอบครัว) … ผู้โดยสารคนอื่นๆ ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะเป็นคนพื้นที่เสียส่วนใหญ่ ดูเหมือนพวกเขาจะไม่วิตกกังวลเท่าไร(มั๊ง) เพราะเขายังนั่งรออยู่บนรถไฟกันต่อไปค่ะ

 

17.30 น. ภายในสถานีมีผู้โดยสาร(ที่มารถไฟขบวนเดียวกับเรา) บ้างก็ยื่นรอ(ต่อคิว) บ้างก็นั่งพัก (หลายคน หลายครอบครัว) บ้างก็ยืนเล่นโทรศัพท์(มือถือ) …เราเข้าไปต่อท้ายเขาไว้ก่อน(อิริยาบถสบายๆ) …แต่ในระหว่างรอ เรากลัวว่าโรงแรมที่จองไว้ในซัปโปโร จะคิดว่าไม่เข้าพักในคืนแรก(เพราะเลยเวลาเช็คอินมานานแล้ว) เราจึงขอให้เจ้าหน้าที่ประจำสถานียาคุโมะ(Yakumo) ช่วยโทรไปแจ้งทางโรงแรมให้หน่อยว่าเราอาจจะถึงช้า(มากๆ)นะ … เจ้าหน้าที่ใจดีมากเลยค่ะ ช่วยจัดการให้เรียบร้อย เรายังนึกถึงความมีน้ำใจและรู้สึกขอบคุณอยู่เสมอ…

 

18.00 น. ผู้โดยสารคนอื่นๆ เริ่มลงจากรถไฟเพื่อรอขึ้นรถบัสที่ทางเจอาร์จัดให้มารับ(หลายคัน)

18.15 น. รถบัสเริ่มทยอยเข้ามาจอดบริเวณหน้าสถานีรถไฟ …เจ้าหน้าที่เรียกผู้โดยสารที่ต่อคิวก่อนหน้า ออกไปขึ้นรถ เดินตามกันไป เก็บกระเป๋าไว้ใต้ท้องรถ (เจ้าหน้าที่เก็บให้) ขึ้่นไปนั่งบนรถกันเลยค่ะ …มุ่งหน้าสู่ซัปโปโร

23.30 น. ถึงสถานีซัปโปโร … เราต้องต่อรถไฟใต้ดินอีก 2 สถานี

24.00 น. ถึงโรงแรมย่านซูซูกิโนะ …เจ้าหน้าโรงแรม รอรับ จัดการเช็คอิน (อย่างรวดเร็ว) ส่งเข้าลิฟท์ อธิบายการใช้การ์ด …อำนวยความสะดวกให้ดีเหลือเกิน คงเป็นเพราะรับแจ้งไว้แล้วว่าเราจะมาถึงช้า

จบประสบการณ์อันแสนจะยาวนานของการเดินทางวันนี้ (14 ชั่วโมง) …ไม่มีแก่นสารเรื่องกิน เรื่องเที่ยวเป็นชิ้นเป็นอัน แต่ก็ยังหวังลึกๆ ว่าจะมีประโยชน์สำหรับใครที่จะต้องเดินทางไกล โดยรถไฟช่วงฤดูหนาว ในพื้นที่ที่มีหิมะตก(พายุหิมะ)เป็นประจำทุกปี


ข้อมูลที่น่าจะเป็นประโยชน์ค่ะ

** เมืองยาคุโมะ (Yakumo) เมืองชนบทเล็กๆ ในภูมิภาคฮอกไกโดทางตอนใต้ เป็นเมืองเดียวที่ติดกับทะเลญี่ปุ่นและมหาสมุทรแปซิฟิก อาคารบ้านเรือนทันสมัย สไตล์ตะวันตก มีคนรุ่นใหม่ๆ ที่เข้าไปอยู่อาศัยและทำกิน ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม และเขียวสดชื่นในช่วงฤดูร้อน มีสวนผัก ผลไม้ที่รอการเยี่ยมชม เก็บสดๆ จากต้น (สตรอว์เบอรี่) …สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ (ดูกูเกิลแมพอยู่ใกล้สถานีรถไฟยาคุโมะค่ะ) เช่น  Yakumo Shrine ,  Umemura Garden , Yakumocho Carved Wooden Bears Museum …เมืองนี้มีจุดพักรถ Oka no Eki ที่มีวิวสวยมากๆ เห็นทะเลจากมุมด้านบนและเป็นวิวพาโนรามา คนญี่ปุ่น(ทุกคน)ที่ผ่านทางสายนี้มักจะแวะที่นี่ก่อนเดินทางต่อไป (เมืองนี้อยู่ห่างจากฮาโกดาเตะประมาณ 81 กิโลเมตร และห่างจากซัปโปโร (ผ่านทางด่วน) ประมาณ 241 กิโลเมตร (แต่ใช้เวลาวิ่งน้อยกว่าทางธรรมดา …ถ้าเช่ารถขับ)

** การเดินทางไกลโดยรถไฟ …อาหาร ขนมปัง(ขนมแห้ง) น้ำ ติดกระเป๋าไว้บ้างก็ดีค่ะ

** กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่กว่า 24 นิ้ว นับว่าเป็นภาระมากๆ ถ้าเลี่ยงได้ใหญ่สุดก็แค่ 24 นิ้วพอค่ะ (ไปหากระเป๋างอกที่ร้านมือสอง หรือพับกระเป๋าผ้าไปจากบ้าน)

คลุกคลีอยู่ในวงการสื่อกว่า 26 ปี